พี.เค.เพรส เซ็นเตอร์ -Smart Print Shop“คลื่นลูกใหม่ที่มาแรงในยุคIndustry 4.0”

“ภายหลังจากที่เรียนจบปริญญาตรีด้าน International Business จากนิวซีแลนด์ผมได้เข้ามาช่วยดูแลธุรกิจโรงพิมพ์ของครอบครัวอย่างเต็มที่เมื่อปี 2548 เมื่อประมาณ 14 ปีก่อนพอกลับมาก็ทำงานไปด้วยพร้อมทั้งเรียนต่อปริญญาโทด้าน eCommerce ที่ ABAC โรงพิมพ์พี.เค.เพรส เซ็นเตอร์ เริ่มต้นกิจการที่อาคารพาณิชย์ เมื่อประมาณ 30 กว่าปีที่แล้วเราเริ่มต้นธุรกิจด้วยการใช้เครื่องพิมพ์หลากหลายรุ่นของไฮเดลเบิร์ก และเมื่อประสบความสำเร็จอย่างดีจึงได้ขยายกิจการและย้ายสถานที่ตั้งโรงงานมาที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร ปัจจุบัน โรงพิมพ์ พี.เค.เพรสเซ็นเตอร์เป็นโรงพิมพ์ขนาดกลาง มีพนักงานประมาณ 100 คน มีความเชี่ยวชาญงานทั้งด้านบรรจุภัณฑ์ฉลาก งานพิมพ์คู่มือต่างๆ ตลอดจนงานพิมพ์ยอดสั้นด้วยระบบดิจิทัล” คุณชนนท์ จุฑานพรัตน์ซีอีโอหนุ่มไฟแรงของบริษัท พี.เค.เพรส เซ็นเตอร์ เล่าถึงประวัติความเป็นมา โรงพิมพ์ พี.เค.เพรสนับเป็นแฟนคลับขนานแท้ของไฮเดลเบิร์ก โดยคุณชนนท์ให้เหตุผลว่า“ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของไฮเดลเบิร์กได้พิสูจน์ตัวเองในการเป็นนวัตกรรมที่เปี่ยมประสิทธิภาพล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีและยืนหยัดจนเป็นที่ประจักษ์ในการเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมการพิมพ์ ตั้งแต่เริ่มต้นกิจการมา เราแทบจะไม่เปลี่ยนไปใช้เครื่องพิมพ์ยี่ห้ออื่นเลย”คุณชนนท์กล่าวเสริมว่า “หลังจากที่ได้เดินทางไปดูเครื่องพิมพ์ อุปกรณ์การพิมพ์ต่างๆของไฮเดลเบิร์กทั้งในประเทศเยอรมนี และประเทศจีนในงานแสดงสินค้าที่ไฮเดลเบิร์กจัดในวาระต่างๆยิ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ไฮเดลเบิร์ก มากยิ่งขึ้น และทำให้ผมได้รับแรงบันดาลใจใหม่ๆในการปรับกระบวนการบริหารจัดการขยายพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์พัฒนาระบบและกระบวนการทำงานในโรงพิมพ์ให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น”

คุณชนนท์เปิดเผยแผนการดำเนินงานของโรงพิมพ์ว่า “เพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจกับสินค้าและการบริการของเรา ปัจจุบัน เราใช้เครื่องจักรที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ขณะนี้ โรงพิมพ์ พี.เค.เพรส มีเครื่องและอุปกรณ์การพิมพ์ต่างๆ ในทุกขั้นตอนการผลิต อาทิ เครื่อง CtP รุ่น Suprasetter A 106 เครื่องพิมพ์ อุปกรณ์การพิมพ์รุ่นต่างๆ ของไฮเดลเบิร์กแข็งแรงทนทาน เครื่องพิมพ์รุ่นต่างๆ ที่เคยวิ่งงานมาทั้ง SM 52; SM 74-4-H เรายังคงใช้งานจนถึงปัจจุบัน มีเครื่องพับรุ่น Ti 52 Proline ของไฮเดลเบิร์ก 3 เครื่อง และเพื่อต่อยอดศักยภาพในการรองรับงานตามความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่ เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ทางโรงพิมพ์ตัดสินใจติดตั้ง Speedmaster XL 75-5 เครื่องพิมพ์ประสิทธิภาพสูง ที่มีความพร้อมของระบบอัตโนมัติระดับสูงสุด เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนี้มีวิธีการทำงานที่เรียบง่าย การเปลี่ยนหมึกง่ายขึ้น ด้วยอุปกรณ์ล้างผ้ายางอัตโนมัติ ผ้ายางจะถูกล้างพร้อมกันในทุกป้อมพิมพ์ ทำให้พิมพ์งานได้อย่างรวดเร็ว พิมพ์ได้ทั้งกระดาษหนาและกระดาษบาง คุณภาพงานดีสม่ำเสมอ สีนิ่งมาก เครื่องพิมพ์รุ่นนี้ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าเราสามารถผลิตงานคุณภาพได้รวดเร็ว ซึ่งการทำงานโดยระบบอัตโนมัตินี้ช่วยให้เราวางแผนงานและบริหารต้นทุนการผลิตได้เป็นอย่างดี และผลงานเป็นที่ไว้วางใจได้ถึงคุณภาพที่สูงสุด เมื่อมีนวัตกรรมที่น่าสนใจที่ช่วยทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง เราจึงพร้อมตอบรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะช่วยพัฒนาธุรกิจของเรา 

โดยเมื่อเร็วๆ นี้ แม้ว่าโรงพิมพ์จะมีเครื่องตัดรุ่น Polar 92 EMC อยู่แล้ว แต่เราได้เพิ่มการติดตั้งPolar System ที่เป็นระบบควบคุมกระบวนการตัดทุกขั้นตอนซึ่งประกอบด้วยเครื่องตัดและอุปกรณ์เสริมซึ่งเครื่องตัด Polar 115 PF รุ่นใหม่นี้ ช่วยให้ ประหยัดและคุ้มค่ามากกว่า เช่น ลดเวลาเปลี่ยนใบมีดเพิ่มความสะดวกในการใช้งานด้วยการตั้งค่าโปรแกรม การตัดโดยซอฟต์แวร์ CompuCut ซึ่งเชื่อมต่อกับโปรแกรมการตัดและส่งไฟล์การตัดงานแต่ละประเภท ไปที่ระบบของเครื่องตัดโดยตรงได้เลยโดยอัตโนมัติ ช่างไม่จำเป็นต้องเสียเวลาคำนวณหรือออกแบบรูปแบบ การตัดเอง โดยเฉพาะการตัดงานแบบที่ยาก เช่น งาน Ganging ที่นำอาร์ตเวิร์คของหลากหลายงานมา วางรวมอยู่บนแผ่นงานเดียวกันที่ช่วยให้ประหยัด คุ้มค่า คุ้มเวลาอีกด้วย การติดตั้งอุปกรณ์เสริม Jogger รุ่น RA4 ที่กระทุ้งกระดาษให้เรียบก่อนการตัด และ Lift รุ่น LW1200-4 ที่ช่วยช่างตัดยกวางกระดาษ ได้สะดวกมากยิ่งขึ้นและลดปัญหาด้านสุขภาพของช่างคุมเครื่องตัดที่ต้องยกกองกระดาษหนักๆ ตลอดวัน”

ล่าสุด ทางโรงพิมพ์ยังได้เลือกใช้ Subscription model โมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ของไฮเดลเบิร์กที่มีบริการให้เช่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมการบริการที่ดีเยี่ยม คุณชนนท์กล่าวว่า“ทางโรงพิมพ์ได้เลือกใช้ Prinect Production Manager (ProMan)ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์เช่า ขณะนี้ ProMan ช่วยให้เราเซ็ตงานได้เร็วขึ้น ส่งค่าสีและระบุขนาดงานพิมพ์ไปที่เครื่องพิมพ์ ช่างพิมพ์ก็สามารถพิมพ์งานได้ทันที เราสามารถวางแผนการทำงานทั้งหมดที่จำเป็นในทุกขั้นตอนการพิมพ์ได้ทั้งหมดสำหรับทั้งงานคอมเมอร์เชียลและงานบรรจุภัณฑ์ การมีโซลูชั่นส์การผลิตที่เชื่อมต่อการทำงานในขั้นตอนต่างๆ โดยมีซอฟต์แวร์ที่เป็นตัวประสานส่งข้อมูล Data เดียวกันส่งต่อถึงกันในทุกขั้นตอนการผลิตได้อย่างครบวงจร ช่วยให้เห็นขั้นตอนการผลิตได้อย่างทะลุปรุโปร่งโรงพิมพ์จึงสามารถจัดการไฟล์งานได้เร็วขึ้น ตรวจเช็คงานที่ทำอยู่และจัดคิวงานที่รออยู่ทั้งหมดและผลิตงานได้อย่างคล่องตัว รวดเร็ว การทำงานที่ซับซ้อนในอดีตกลายเป็นเรื่องง่ายในปัจจุบัน 

คุณชนนท์กล่าวถึงข้อดีของการลงทุนรูปแบบใหม่นี้ “สำหรับผม Subscription model ของซอฟต์แวร์ProMan นี้เป็นบริการที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี เราเพียงจ่ายค่าบริการรายเดือนให้ไฮเดลเบิร์ก เมื่อก่อนซอฟต์แวร์ของไฮเดลเบิร์กมีมูลค่าสูงมาก แต่ทุกวันนี้ เราไม่ต้องจ่ายค่า Licenseปลีกย่อยของซอฟต์แวร์ต่างๆ ในแต่ละรายการอีกต่อไป และเมื่อถึงวาระที่ต้องปรับรุ่น ทางโรงพิมพ์จะได้รับการอัพเกรดโดยทีมงานไฮเดลเบิร์กอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ยิ่งมีสัญญาเช่านานค่าเช่าเฉลี่ยในแต่ละเดือนจะยิ่งคุ้มอย่างมากในระยะยาว โมเดลธุรกิจให้เช่าใช้ซอฟต์แวร์ PrinectProduction Manager (ProMan) นี้ ยังมีซอฟต์แวร์ที่จำเป็นต่างๆ ให้เลือกใช้ อาทิ Cockpit,Data Terminal, Scheduler, Proofing, Signa Packaging Pro และ AnalyzePoint หนึ่งในฟังก์ชั่นการทำงานของ ProMan คือการดึงข้อมูลการผลิตงานพิมพ์ที่ผ่านๆ มาจากในระบบ มานำมาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาศักยภาพการผลิตเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการผลิตสูงสุด ซึ่งช่วยให้เราวางแผนงานได้ดีขึ้น สิ่งที่ผมประทับใจมากที่สุดคือซอฟต์แวร์ Prinect Portal ที่ช่วยให้ผมสามารถติดตามความเคลื่อนไหวในโรงพิมพ์ได้ ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหน ผมสามารถเช็คได้ทางออนไลน์ได้ตลอดเวลาว่าตอนนี้มีเครื่องไหนทำงานอยู่ ทำงานอะไรบ้าง ซึ่งซอฟต์แวร์ต่างๆนี้ ใช้งานง่าย ช่วยรองรับงานที่มีรูปแบบ การพิมพ์ที่หลากหลายหรืองานที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง ช่วยให้เราปรับความยืดหยุ่นในการผลิตงานพิมพ์ได้เป็นอย่างดีและเราสามารถเซฟค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก” 

“สิ่งที่ผมประทับใจกับไฮเดลเบิร์กในด้านอื่นๆ อาทิ คุณภาพสินค้ามีความเหนือชั้น ทีมงานเป็นผู้ทรงคุณวุฒิมีความเชี่ยวชาญด้านการพิมพ์อย่างมาก อีกทั้งยังมีความเป็นกันเองจึงเป็นเสมือนเพื่อนคู่คิดที่คอยให้คำแนะนำปรึกษา นอกจากนี้ ทางเราสามารถสั่งซื้อวัสดุอุปกรณ์การพิมพ์ได้ 24 ชั่วโมง พร้อมการจัดส่งที่รวดเร็ว ช่วยให้เราลดเวลาบริหารจัดการสต็อคและวางแผนการผลิตได้ดียิ่งขึ้น ผลิตงานได้ต่อเนื่อง ไม่ขาดตอน วิธีการนี้ ยังช่วยในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมโดยลดปริมาณของเสียต่างๆ อาทิ สต็อคสินค้าที่อาจหมดอายุก่อนใช้งาน ลดต้นทุนสต็อค ลดพื้นที่จัดเก็บสินค้าและวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก โดยภาพรวม ผมเชื่อมั่นกับผลิตภัณฑ์ การบริการ และทีมงานไฮเดลเบิร์กที่มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ไฮเดลเบิร์กส่งมอบการบริการที่ดี ช่างมาเร็วและซ่อมไวมาก ทีมช่างเก่ง ฝีมือดี มากด้วยประสบการณ์ มีความรับผิดชอบงานสูงทำให้งานของเราไม่สะดุด เราสามารถควบคุมการผลิตและวางแผนเวิร์คโฟลว์การทำงานได้เป็นอย่างดี” คุณชนนท์กล่าว

ที่สำคัญคือคุณชนนท์ไม่หยุดยั้งในการพัฒนาองค์กร เอาใจใส่ดูแลบุคลากรสร้างทีมงานให้มีความรักความสามัคคี คุณชนนท์กล่าวเสริมว่า “ทีมไฮเดลเบิร์กได้จัดคอร์สฝึกอบรมส่งมอบความรู้และทักษะการทำงาน สร้างความพร้อมให้พนักงานมีความเชี่ยวชาญในการทำงานได้ดียิ่งขึ้น เทคโนโลยีของไฮเดลเบิร์กเป็นนวัตกรรมแห่งอนาคต ซึ่งเราได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งนี้อย่างมากในแง่ของการแข่งขัน และเราพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อตอบรับงานที่ยากและท้าทายต่างๆ ซึ่งช่วยให้เราพัฒนากระบวนการผลิตให้คล่องตัว ก้าวไปอีกขั้นและบรรลุการเติบโตทางธุรกิจและสามารถต่อยอดในการเป็นโรงพิมพ์ชั้นนำยุคดิจิทัล Smart Print Shop ผู้ผลิตงานพิมพ์ในระดับแนวหน้าอย่างแท้จริง”